Custom Search

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

FinalFantasy XIII-2 บทสัมภาษณ์ทีมงาน Square Enix




บทสัมภาษณ์จากทางทีมงาน Square Enix กับเกม Final Fantasy XIII-2 ที่ในเนื้อหานี้ต้องขอขอบคุณบทสัมภาษณ์จากทาง Dengeki และแปลโดยทีมงานจีคอนโซล กับบทสัมภาษณ์ของ Yoshinori Kitase และ Toriyama
- คุณคิตาเสะบอกว่า จุดประสงค์ของการฉายอนิเมชั่นเบื้องหลังตำนาน Fabula ให้ดู เพราะต้องการให้เห็นว่า FFXIII เป็นเพียงการพรรณนาส่วนหนึ่งของตำนาน ที่เชื่อมโยงกันด้วยคอนเซปต์ของฟัลซิและลูซิเท่านั้น ตัว FFXIII ไม่ได้อธิบายทั้งหมดของตำนาน แต่การจะเข้าใจเนื้อหาความเป็นไปของตำนานทั้งหมดนั้น ผู้เล่นก็ต้องติดตามเกมอื่นๆ ของซีรียส์นี้ที่จะออกตามมา


- เนื้อหาใน XIII-2 จะเน้นไปที่ส่วนอื่นของตำนาน FFXIII เดิมเน้นไปที่การอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างพัลส์กับลินด์เซย์ แต่คราวนี้จะเน้นไปที่เอโทร โดยคุณโทริยามะเองก็บอกว่าคราวนี้จะลงลึกไปที่เนื้อหาของตำนานให้มากกว่า เดิมแล้ว
- คุณโทริยามาะบอกว่าเนื้อเรื่องของ XIII-2 จะเริ่มต้นในแกรนพัลส์ หลังจากจบเหตุการณ์ในภาค XIII ไป โดยจะต่อเนื่องมาจากนิยายที่เป็นเนื้อเรื่องหลังจบเกม
- XIII-2 เป็นภาคต่อของเกมอย่างเต็มตัว โดยเนื้อหาในภาคนี้จะทำให้เราได้รู้อะไรบางอย่างที่เป็นเบื้องหลังของฉากจบ เกม ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และยังจะได้สำรวจแกรนพัลส์ เพื่้อเปิดโลกและท่องไปในที่ต่างๆ ที่ยังไม่เคยได้ไป ซึ่งคราวนี้เนื้อเรื่องจะมืดมน และลึกลับกว่าภาค XIII เดิม
- คุณโทริยามะอธิบายว่าไลท์นิ่งยังคงเป็นตัวเอกของเกมอย่างเช่นเคย ทว่าเพื่อนคนอื่นๆ อาจปรากฏตัวมาในรูปแบบที่คุณคาดไม่ถึง ตัวละครบางตัวอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แล้วเกมยังมีตัวละครใหม่นอกเหนือจากชายลึกลับในเทรลเลอร์ ซึ่งตรงนี้คุณคิตาเสะก็บอกว่าตัวละครนั้นเป็นปรปักษ์กับไลท์นิ่ง และมีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับเธอ

- คุณคิตาเสะยืนยันว่าจากที่เห็นไลท์นิ่งใส่เกราะแบบนั้น ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่อิมเมจของคาแรคเตอร์จะไม่เปลี่ยนไปมากแบบ FFX-2 แน่นอน XIII-2 ยังคงเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดเหมือนอย่างเคย
- ในภาคนี้ไลท์นิ่งมักจะปรากฏตัวพร้อมขนนกจำนวนมาก แถมชุดเกราะของเธอยังมีส่วนที่เป็นขนนกอีก ตรงข้ามกับภาคที่แล้วที่ไลท์นิ่งจะปรากฏตัวพร้อมกลีบกุหลาบ (เวลาเรียกโอดิน) ที่ภาคนี้ใช้ขนนกเพราะตั้งใจจะสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ให้มากกว่าเดิม เป็นการเข้าใกล้อาณาเขตของเทพมากขึ้นนั่นเอง

- ระบบต่อสู้จะพัฒนาจาก ATB ของ XIII เดิมไปมาก คุณโทริยามะบอกว่าเนื่องจากมันเป็นภาคต่อ ก็อยากจะเอาประสบการณ์ที่ได้จากการสร้างเกมภาคแรกมาใช้ต่อในภาคนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่จำเป็นต้องแก้ และทำในสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น ตอนนี้ทีมงานก็กำลังทดสอบตัวเกม แล้วก็เปิดรับฟังความเห็นทั้งจากคนในและคนนอกบริษัท ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับทั้งคาแรคเตอร์ เนื้อเรื่องและอินเตอร์เฟซ
- คุณโทริยามะอยากให้มีระบบที่ใช้ปรับความยากง่ายของเกมได้ อาจเป็นการใส่ Easy Mode เข้าไปก็ได้ ตอนนี้กำลังคิดๆ กันอยู่ ทั้งนี้พวกเขาก็พยายามพัฒนาเกมให้คนที่ไม่ได้เล่นตัวเกมภาคแรก สามารถสนุกไปกับภาคนี้ได้ด้วย

Credit: Gconsole, Dengeki 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น